BLOGS

รู้จักกับ Gemini พร้อมคุณสมบัติที่เหนือกว่า GPT-4

Tangerine • 15/03/2024
Tangerine Co., Ltd.
Gemini

แวดวงเทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีใหม่ ๆ   กำลังเปลี่ยนแปลงโลกของเรา เพื่อเข้ามาอำนวยความสะดวกทั้งลดกระบวนการที่ยุ่งยาก ลดขั้นตอนการทำงานให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างล่าสุด Google ได้เปิดตัว Gemini 1.5 เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model) พัฒนาต่อยอดจาก Gemini 1.0 ที่มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลประเภทรูปภาพ วิดีโอ เสียง หรือโค้ด ทำให้ข้อมูลในการสร้างข้อความสอดคล้อง เกี่ยวข้องและมีประโยชน์ต่อผู้ใช้มากที่สุด เห็นได้ว่าความก้าวหน้าด้านการเรียนรู้ของ Machine Learning และ Artificial Intelligence (AI) หรือที่เรียกว่า ปัญญาประดิษฐ์ มีศักยภาพเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้งานและบริการต่าง ๆ ในสังคม

Gemini คืออะไร?

Gemini คือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่พัฒนาโดย Google AI ถูกออกแบบมาให้เป็น Multi-modal ที่สามารถสนทนาโต้ตอบกับผู้ใช้อย่างเข้าใจและประมวลผลข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ อาทิเช่น แปลภาษา ตอบคำถาม สรุปบทความ เขียนโค้ด และวางแผน ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ข้อความเพียงอย่างเดียว  Gemini สามารถใช้งานบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่ศูนย์ข้อมูลไปจนถึงอุปกรณ์มือถือได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Gemini เริ่มต้นใช้งานอย่างไร

gemini-ai

สมัครใช้งาน

สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยลองใช้งาน Gemini มาก่อน สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ https://gemini.google.com/  และสมัครใช้งานด้วยบัญชี Google ของท่าน ใช้งานได้ฟรี โดยจะจำกัดหน่วยความจำที่ 15 GB หากต้องการเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูล ท่านต้องสมัครแพ็กเกจแบบชำระเงินกับ Google One 

แพ็กเกจ Basic: เก็บข้อมูลได้ 100 GB ราคา 70 บาทต่อเดือน สามารถทดลองใช้ได้ในราคา 17 บาท/เดือน เป็นเวลา 3 เดือน

แพ็กเกจ Premium: เก็บข้อมูลได้ 2 TB ราคา 350 บาทต่อเดือน สามารถทดลองใช้ได้ในราคา 87.5 บาท/เดือน เป็นเวลา 3 เดือน

ทั้ง 2 แพ็กเกจยังไม่รวมบริการ Gemini Advanced ถ้าต้องการใช้งานฟีเจอร์พิเศษนี้ ต้องสมัครแพ็กเกจ AI Premium ให้พื้นที่เก็บข้อมูล 2 TB ในราคา 750 บาทต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 2 เดือน

เลือกโมเดล

Gemini AI มี 3 โมเดลให้เลือกใช้งาน ดังนี้

Gemini Ultra: โมเดลที่ใหญ่ที่สุด เหมาะสำหรับงานที่มีความซับซ้อนสูง มีข้อมูลความรู้เกี่ยวกับฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ กฎหมาย และสามารถคิดหาเหตุผลของคำตอบ ใช้ในระดับองค์กรเป็นส่วนใหญ่ ท่านต้องสมัครแพ็กเกจ AI Premium รายเดือนหรือรายปีถึงจะใช้งาน Gemini Ultra ได้

Gemini Pro: โมเดลขนาดกลาง สามารถคิดหาคำตอบได้ซับซ้อนมากขึ้น ใช้งานผ่านระบบ Cloud TPUs ของ Google Cloud Platform หรือใช้งานผ่าน Google WorkspaceGemini Nano: โมเดลขนาดเล็ก เหมาะสำหรับใช้งานบนมือถือ Android หรือแท็บเล็ต

เริ่มใช้งาน

ใช้งาน Gemini ผ่านเว็บไซต์หรืออุปกรณ์มือถือ ท่านสามารถพิมพ์คำถาม คำสั่ง หรือเนื้อหาที่ต้องการในช่องข้อความ Gemini จะประมวลผลและแสดงผลลัพธ์

ตัวอย่างการใช้งาน Gemini โมเดล AI ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดพร้อมความสามารถสุดล้ำ

Use case ที่ Gemini สามารถมาปรับใช้กับองค์กรหลากหลายรูปแบบ ในตอนนี้ทาง Google เปิดให้ใช้งาน Gemini 1.5 ระยะทดลองฟรี 2 เดือน นักการตลาดหรือนักพัฒนาสามารถนำไปใช้ Use Case ต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับองค์ของตนเอง Google มีตัวอย่างทดลองการใช้ Gemini ให้เหตุผลกับโค้ดกว่า 100,000 บรรทัดถึงวิธีการแก้ไข และคำอธิบายที่เป็นประโยชน์ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที หรือการให้ Gemini อ่านเอกสาร PDF เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ตอบคำถามที่ซับซ้อนได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน แสดงให้เห็นถึงความอัจฉริยะของ Gemini ที่สามารถช่วยเหลือท่านได้ แน่นอนว่าด้วยประสิทธิภาพเก่งกาจนี้สามารถมาปรับใช้กับองค์กรหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่

หรือหากสนใจ Demo เพิ่มเติมให้ Tangerine เข้าไปนำเสนอและเทรนนิ่ง จากทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ของเราสามารถติดต่อได้ทันที https://www.tangerine.co.th/contact-us/ 

สำหรับการพัฒนาโมเดลสำหรับองค์กร ความฉลาดของ Gemini 1.5 ที่มาจากการใช้สถาปัตยกรรมแบบ MoE (Mixture-of-Experts) เป็นรูปแบบใหม่ของโครงข่ายประสาทเทียม (Neural Networks) ที่ใช้หน่วยประมวลผลน้อยลง ทำงานโดยแบ่งงานออกเป็นโมเดลย่อย ๆ (Experts) ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านต่าง ๆ โมเดลเหล่านี้เปรียบเสมือนผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนที่มีความรู้เฉพาะด้าน MoE ช่วยให้โมเดลทำงานได้รวดเร็วขึ้นโดยใช้หน่วยประมวลผลน้อยลง สิ่งนี้สำคัญมากสำหรับองค์กรที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาลและต้องการประมวลผลข้อมูลอย่างรวดเร็ว 

หากใครยังนึกภาพการทำโมเดลในองค์กรไม่ออก สามารถลองใช้ Gemini for Google Workspace ที่กำลังจะเข้ามาแทนที่ Duet AI for Google Workspace โดยมีฟีเจอร์ใหม่คือการสนทนากับ Gemini ได้โดยตรง พร้อมการปกป้องข้อมูลระดับองค์กร นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจ Gemini Business ราคาประหยัดสำหรับทีมและองค์กรขนาดเล็ก Google เปิดให้ใช้งานโดยทั่วไปแล้วสำหรับบริษัททุกขนาด เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานในองค์กร 

Gemini รับบทบาทหน้าที่ได้ตามที่ท่านต้องการ คือเป็นนักวิเคราะห์การวิจัยของที่ช่วยให้เจ้าขององค์กรมองเห็นแนวโน้ม วิเคราะห์ข้อมูล และระบุโอกาสทางธุรกิจ เป็นตัวช่วยเขียนอีเมลระดับมืออาชีพ หรือช่วยสร้างสื่อการนำเสนอเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายและเร่งรายได้ Gemini เป็นผู้ช่วยที่ขับเคลื่อนด้วย AI จาก Google ซึ่งติดตั้งอยู่ใน Gmail, Docs, Sheets และอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวระดับองค์กร

ฟีเจอร์ของ Gemini for Google Workspace อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแผนการใช้งานและการตั้งค่าของแต่ละองค์กร

Gemini มีประโยชน์ต่อธุรกิจ ช่วยให้องค์กรของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้วยความฉลาดล้ำของ Gemini นั้นสามารถเข้าใจและแก้ปัญหาระดับซับซ้อน เช่น วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลจากเอกสารหรือบทความมากกว่า 700,000 คำ จากนั้นตอบคำถามฉากต่าง ๆ ได้ และยังสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับ Core Codebase ปรับแต่ง Parameter เพื่อควบคุม Animation Speed ได้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ Gemini ที่สามารถปรับใช้ได้กับทุกองค์กร

ตัวอย่างเช่น ผู้จัดการฝ่ายการตลาดสามารถใช้ Gemini เพื่อช่วยระบุหัวข้อสำหรับแคมเปญการตลาดผ่านอีเมลโดยการวิเคราะห์แนวโน้มของอุตสาหกรรม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการวิเคราะห์ข้อความของคู่แข่ง จากนั้น Gemini สามารถช่วยร่างข้อความที่น่าสนใจ เป็นเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ โดยมีหัวข้อที่มุ่งเน้นผลประโยชน์ เนื้อหาน่าดึงดูดให้อ่าน เพิ่มยอดขาย และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า หรือ นักวิเคราะห์ธุรกิจที่มีหน้าที่มองหาการเติบโตในแผนกของตัวเอง เขาสามารถใช้ Gemini เพื่อระบุแนวโน้มได้อย่างรวดเร็ว และนำไปต่อยอดได้ในเชิงกลยุทธ์ ด้วยการพูดคุยกับ Gemini ที่ทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ตรวจสอบโอกาส และสร้างข้อเสนอใหม่ ๆ ทางธุรกิจสู่การเติบโตที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

การอัปเดตล่าสุดของ Gemini

gemini-google

Gemini 1.5 Pro เวอร์ชันล่าสุดของ Gemini มีการนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เรียกได้ว่าพัฒนาและฉลาดขึ้นจากเดิมเยอะขึ้นมาก มาดูกันว่า Gemini 1.5 Pro นี้มีการอัปเดตอะไรบ้างที่น่าสนใจ

  • รองรับ Input ขนาดใหญ่ รองรับข้อมูลชุดคำสั่งขนาด 1 ล้าน โทเคน ทาง Google เปรียบเทียบให้เห็นว่าเท่ากับวิดีโอที่ยาว 1 ชั่วโมง, คลิปเสียงยาว 11 ชั่วโมง, เอกสารมากกว่า 700,000 คำ, และโค้ดกว่า 30,000 บรรทัด ถือว่ามากกว่า GPT-4 ของ OpenAI ถึง 70 เท่า ช่วยให้สามารถทำงานกับข้อมูลที่ซับซ้อนได้ดีกว่าเดิม 
  • ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า มีประสิทธิภาพเหนือกว่าตัว Gemini 1.0 Pro ใช้สถาปัตยกรรม MoE (Mixture-of-Experts) ทำให้ทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ประหยัดพลังงานและทรัพยากรเพราะระบบจะนำเฉพาะเครือข่ายที่เกี่ยวข้องมาประมวลผลเท่านั้น

ความแตกต่างของ Gemini vs ChatGPT

GeminivsChatGPT

เปรียบเทียบความแตกต่างของ Gemini 1.0 Ultra และ ChatGPT-4

  • ประมวลผล และสืบหาข้อมูล Gemini 1.0 Ultra จะให้ข้อมูลที่ถูกดึงจมากจากบน Google โดยมีแหล่งที่มาอย่างชัดเจน และแม่นยำ ส่วนของ ChatGPT-4 จะให้ข้อมูลของชุดข้อมูลการฝึก หรือข้อมูลที่ใช้ในการสอนโมเดล Machine Learning ให้เรียนรู้และจดจำรูปแบบ ซึ่งข้อมูลอาจจะไม่ได้ถูกอัปเดตเป็นเวอร์ชั่นปัจจุบัน ข้อมูลที่ได้รับอาจจะเกิดการคลาดเคลื่อนได้
  • การใช้งาน Gemini 1.0 Ultra หากจะใช้งานจำเป็นต้องล็อกอินผ่านทาง Google Account ก่อนถึงจะใช้งานได้ ส่วนChatGPT-4 หากใช้งานสามารถใช้ Google Account Apple ID และ Microsoft Account 
  • แพลตฟอร์ม Gemini 1.0 Ultra จะเป็นแพลตฟอร์มของ Google Cloud เท่านั้น และ ChatGPT-4 จะเป็นแพลตฟอร์มของเว็บไซต์ ChatGPT 
  • ราคา Gemini 1.0 Ultra ราคาอยู่ที่ 750 บาทต่อเดือน ChatGPT-4 ราคาอยู่ที่ 1,500 บาทต่อเดือน 

สรุป

ในขณะนี้ Gemini 1.5 Pro ยังอยู่ในช่วงทดสอบ ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้งานโมเดลได้ที่ขนาด 128,000 โทเคน ซึ่งเพียงพอสำหรับงานทั่วไปหลายประเภท เช่น การเขียนอีเมล สรุปข้อความ และแปลภาษา สามารถเข้าใจข้อมูลในรูปแบบ PDF, Video รวมถึงการแนะนำข้อมูลต่าง ๆ ได้

หากท่านหรือองค์กรภาครัฐและเอกชน มีความสนใจเกี่ยวกับการเริ่มใช้งาน Gemini
เราแทนเจอรีนพร้อมให้คำปรึกษา www.tangerine.co.th และให้บริการด้าน Digital Technology ครบวงจร
ทั้งในเรื่องของ Data Analytics & Machine Learning และ Artificial Intelligence

Reference
Our next-generation model: Gemini 1.5
Google Just Launched Gemini, Its Long-Awaited Answer to ChatGPT
Welcome to the Gemini era

Get a Free Consultation
Contact Form_EN Sources (#25)