การมุ่งเน้นนำเสนอข้อมูลที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพเกี่ยวกับสถานที่กลายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างความแตกต่างในตลาดแอปพลิเคชัน ไม่ว่าจะเป็นการนำทาง การค้นหาสถานที่ หรือการจัดการข้อมูลสถานที่ให้แก่ลูกค้า แผนที่และระบบนำทางเป็นหัวใจสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
ด้วยความฟีเจอร์ล้ำสมัยจาก Maps APIs ผู้ประกอบการสามารถสร้างแอปที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ และสร้างความพึงพอใจได้มากยิ่งขึ้น ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับฟีเจอร์เด็ดของ Maps APIs ที่จะเป็นเครื่องมือช่วยให้การพัฒนาแอปพลิเคชันของคุณง่ายขึ้น พร้อมทั้งตัวอย่างวิธีการใช้ฟีเจอร์เหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
Maps APIs คือ
Maps APIs คือ หนึ่งในบริการย่อยของ Google Maps Platform เป็นชุดเครื่องมือที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถนำแผนที่ของ Google ไปใช้ในแอปพลิเคชัน (IOS, Android ) ของตนได้นั่นเอง เพื่อเพิ่มฟังก์ชันการทำงานให้กับแอป ทำให้แอปของคุณสามารถแสดงแผนที่ และแสดงข้อมูลสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำและมีความทันสมัย
ฟีเจอร์หลัก ๆ ของ Maps APIs
Maps APIs มีฟีเจอร์หลัก ๆ ดังนี้
1. 2D Map Tiles แสดงแผนที่แบบ 2 มิติ
Maps APIs 2D Map Tiles เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถนำแผนที่แบบ 2 มิติของ Google มาแสดงผลในแอปพลิเคชันของตนได้อย่างง่ายดาย และออกแบบอินเทอร์เฟซ (Interface) และเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์รวมถึงออกแบบได้ตามความต้องการของคุณ เพื่อปรับแต่งการแสดงผลข้อมูลให้เหมาะสม
ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ใช้ในการแสดงตำแหน่งโครงการที่ดินบนแผนที่ เช่น สามารถคำนวณระยะทางจากโครงการไปยังสถานที่สำคัญต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาลได้
2. Aerial View มุมมองทางอากาศ
Maps APIs Aerial View คือ ฟีเจอร์ที่ให้มุมมองภาพถ่ายทางอากาศของพื้นที่ต่าง ๆ ให้ภาพถ่ายที่มีความละเอียดสูงและมุมมองจากบนอากาศ มุมมองนี้จะให้ภาพที่กว้างและครอบคลุม ทำให้เห็นรายละเอียดของพื้นที่ได้อย่างชัดเจนและเข้าใจภาพรวมได้ดีขึ้น ในมุมมอง 3 มิติช่วยเพิ่มมิติในการดู ทำให้เห็นภาพที่สมจริง แต่ปัจจุบันรองรับเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา
3. Dynamic Maps แสดงภาพถนนแบบตอบโต้ได้
แผนที่แบบไดนามิก (Dynamic Maps) เป็นการซูมเข้า ซูมออก เลื่อนแผนที่ หรือคลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ บนแผนที่ จุดเด่นของ Dynamic Maps รองรับการปรับแต่งขั้นสูง อาทิ
- เพิ่มข้อมูลสถานที่สำคัญ การกำหนดสีและสไตล์ของแผนที่ หรือการเชื่อมโยงกับข้อมูลอื่นๆ
- มีรายละเอียดในแผนที่มากขึ้น เช่น ทางเท้า ทางม้าลาย ไฟจราจร และอื่น ๆ
- ใส่ไอคอนสถานที่สำคัญ
- แสดงและปรับแต่งรูปแบบแผนที่ตามชุดข้อมูลแบบตาราง ข้อมูลขอบเขตการบริหารจัดการของ Google หรือข้อมูลธุรกิจของคุณเอง
4. Dynamic Street View ภาพความเป็นจริงแบบพาโนรามา 360°
Dynamic Street View เป็นฟีเจอร์หนึ่งของ Maps APIs ที่อนุญาตให้ผู้พัฒนาสามารถแสดงภาพถ่ายแบบ 360 องศาของถนน (Street View) บนแผนที่แบบไดนามิกได้ สร้างประสบการณ์ให้ผู้ใช้งานเห็นมุมมองถนนแบบเสมือนจริง
5. Maps Embed ฝังแผนที่แบบง่ายในเว็บไซต์
ด้วยคำอธิบายของ Maps Embed เพิ่มแผนที่แบบโต้ตอบหรือ Street View ลงเว็บไซต์ของคุณด้วยคำสั่ง HTTP ง่าย ๆ แสดงว่าคุณไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ด JavaScript และยังสามารถปรับแต่งขนาดและลักษณะของแผนที่ได้ตามต้องการ เพื่อตอบสนองผู้ใช้งานหรือลูกค้าของคุณ โดยไม่ต้องติดตั้ง plugin หรือ widget ลงในระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ของเว็บไซต์
Maps Embed สามารถใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการเรียกใช้ APIs อื่น ๆ ของ Google Maps Platform ได้ เพื่อสร้างฟังก์ชันการทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การคำนวณเส้นทาง การค้นหาสถานที่ หรือการสร้างแอปพลิเคชันนำทาง แอปพลิเคชันค้นหาร้านอาหาร หรือแอปพลิเคชันติดตามพัสดุ
6. Maps Datasets จัดการและใช้ข้อมูลแผนที่ขนาดใหญ่
Maps APIs Maps Datasets อัปโหลด จัดเก็บ และจัดการข้อมูลเชิงพื้นที่ไปยัง Google Cloud Console และนำไปใช้งานกับ APIs อื่น ๆ ของ Google Maps Platform
7. Photorealistic 3D Maps แผนที่สามมิติสมจริง
Photorealistic 3D Maps คือฟีเจอร์ใน Google Maps APIs ที่ช่วยสร้างแผนที่สามมิติที่สมจริง จุดเด่นหลักคือ แผนที่ 3 มิติความละเอียดสูง
8. Photorealistic แบบ Grid แผ่น ความละเอียดสูงขึ้น
Photorealistic 3D Tiles ฟีเจอร์ใหม่สุดล้ำที่จะทำให้แผนที่ของ Google Maps มีมิติมากขึ้นกว่าเดิม เป็นการนำเสนอภาพแผนที่ในรูปแบบ 3 มิติ ที่เหมือนจริงราวกับภาพถ่าย โดยใช้เทคโนโลยี 3D Mesh ที่มีความละเอียดสูง เทียบเท่ากับที่ใช้ใน Google Earth เลยทีเดียว
- ภาพที่สมจริง ทำให้เห็นภาพสถานที่ได้ชัดเจนเหมือนอยู่ตรงนั้น
- ข้อมูลครบครัน ไม่ใช่แค่แผนที่ แต่ยังแสดงข้อมูลอื่นๆ ได้ เช่น แสดงข้อมูลสภาพจราจร
- ปรับแต่งได้ นักพัฒนาสามารถนำข้อมูล 3 มิติของตัวเองมาใช้ได้
Google Maps Platform กำลังปฏิวัติวงการแผนที่ ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่ทำให้แผนที่ 3 มิติเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้ใช้งานทั่วไปและนักพัฒนาสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลายรูปแบบ
9. Static Maps ภาพแผนที่แบบคงที่
Static Maps คือ ภาพแผนที่ที่สร้างขึ้นแบบคงที่ ไม่เคลื่อนไหวหรือซูมได้ โดยการใช้ Google Maps APIs คุณสามารถกำหนดตำแหน่ง ขนาด ระดับการซูม และรูปแบบแผนที่ได้ผ่าน URL ที่สร้างขึ้น มีความง่ายต่อการใช้งานไม่ต้องเขียนโค้ด JavaScript ซับซ้อน เพียงแค่สร้าง URL ตามรูปแบบที่กำหนด ก็สามารถฝังภาพแผนที่บนเว็บไซต์ได้เลย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแสดงแผนที่แบบง่าย เช่น แผนที่ติดต่อ หรือแผนที่แสดงสาขาร้านค้า
และในธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม เช่น การนำข้อมูลที่อยู่ของทรัพย์สินแต่ละที่ มาแปลงเป็นพิกัด เพื่อให้แสดงผลในแผนที่ Web/App ให้เห็นได้ชัดเจนว่าอยู่แถวไหน พร้อมราคาเพื่อง่ายต่อการตัดสินใจ
10. Static Street View มุมมองถนนแบบคงที่
Static Street View นั้นเป็นการนำภาพ Street View แบบพาโนรามาที่เราคุ้นเคยบน Google Maps มาแสดงผลในรูปแบบภาพนิ่ง หรือที่เรียกว่าภาพนิ่ง 360 องศา เป็นเทคโนโลยีที่น่าทึ่งที่ช่วยให้เราสามารถสำรวจสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลกได้เสมือนจริงราวกับยืนอยู่ ณ จุดนั้น
11. Street View Tiles ภาพพาโนรามาแบบชิ้นเล็ก ๆ
Street View tiles คือ ภาพถ่ายมุมกว้างที่ถูกถ่ายมาจากมุมต่าง ๆ เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ เพื่อสร้างภาพพาโนรามา Street View ที่สมบูรณ์แบบ มีการโหลดและการแสดงผลที่มีประสิทธิภาพ โดยแผ่นเหล่านี้มักจะถูกจัดลำดับโดยใช้ระบบพิกัดที่ช่วยให้สามารถเรียกดูและแสดงผลได้ง่าย
การใช้งาน Maps APIs บนแอปพลิเคชันต่างๆ และ Use case จาก Tangerine
Maps APIs เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถนำเอาฟีเจอร์การทำงานของแผนที่เข้ามาผสานรวมกับแอปพลิเคชันของตนได้อย่างง่ายดาย จึงทำให้ Maps APIs ถูกนำไปใช้งานในแอปพลิเคชันหลากหลายประเภท เช่น
- แอปพลิเคชันเรียกรถ เช่น Grab, Uber หรือ Line Man ใช้ Maps APIs เพื่อแสดงตำแหน่งของผู้โดยสารและผู้ขับขี่ คำนวณค่าโดยสาร และวางแผนเส้นทาง รวมถึงคำนวณเส้นทางที่ดีที่สุด แอปพลิเคชันสั่งอาหาร แอปพลิเคชันสำหรับธุรกิจ
- แอปพลิเคชันหาสถานที่ เช่น Wongnai หรือ TripAdvisor ใช้ Maps APIs เพื่อแสดงตำแหน่งของร้านอาหาร โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ พร้อมกับรีวิวและรูปภาพ
Use case จาก Tangerine
- Tangerine x KOVET ระบบบริหารจัดการการส่งสินค้า
KOVET ต้องการระบบที่สามารถจัดการข้อมูลการจัดส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงต้องการให้พนักงานขับรถสามารถเข้าถึงข้อมูลการจัดส่งได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ทีมผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวกับ Google Product จาก Tangerine ได้นำเสนอโซลูชันโดยใช้ Google Cloud Platform และการใช้ Google Maps APIs มาพัฒนาระบบ Web Application และ Mobile Application ที่ตอบโจทย์ความต้องการของ KOVET โดยพัฒนาให้มีฟังก์ชันการทำงานหลัก ดังนี้
- นำเข้าและแสดงผลตำแหน่งลูกค้าบน Google Maps ระบบจะแสดงตำแหน่งที่อยู่ของลูกค้าบนแผนที่ Google Maps เพื่อให้พนักงานส่งของสามารถวางแผนเส้นทางได้อย่างสะดวก
- Mobile App สำหรับ Check-in และกรอกข้อมูล พนักงานส่งของสามารถใช้แอปพลิเคชันบนมือถือเพื่อ Check-in ขณะส่งสินค้าและกรอกฟอร์มเก็บข้อมูล เช่น เวลาที่ส่งมอบสินค้า
- ติดตามสถานะการส่งสินค้า ทั้งบริษัทและลูกค้าสามารถติดตามสถานะการส่งสินค้าได้แบบเรียลไทม์ผ่านระบบ
การออกแบบโซลูชัน ทีมผู้เชี่ยวชาญจาก Tangerine ได้ออกแบบโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจของ KOVET โดยใช้ความสามารถของ Google Cloud และGoogle Maps Platform APIs ระบบช่วยให้ KOVET สามารถจัดการการส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ คนขับรถสามารถรับข้อมูลการจัดส่งในแต่ละวันและตรวจสอบสถานะการขนส่งได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ
2. Tangerine x ASIA CAB พัฒนาแอปพลิเคชัน CABB เพื่อยกระดับบริการรถแท็กซี่
ASIA CAB ต้องการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อยกระดับบริการรถแท็กซี่ให้มีความทันสมัยและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ โดย Tangerine และ ASIA CAB ได้ร่วมมือกันพัฒนา CABB Application ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันด้านการขนส่งที่เน้นความปลอดภัย ความสะอาด และความสะดวกสบาย ในราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ เริ่มจาก Tangerine นำเทคโนโลยี Google Maps Platform APIs มาใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน
- เรียกรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชัน ผู้โดยสารสามารถเรียกรถแท็กซี่ได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชัน โดยระบุจุดรับและจุดส่ง
- แสดงผลตำแหน่งรถแท็กซี่บนแผนที่: แอปพลิเคชันจะแสดงตำแหน่งของรถแท็กซี่ที่ว่างอยู่บนแผนที่ Google Maps เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเลือกและติดตามรถแท็กซี่ได้
- นำเสนอเส้นทางที่เหมาะสมที่สุด คำนวณเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดโดยพิจารณาจากสภาพการจราจรปัจจุบัน
- แสดงระยะทางและค่าโดยสารโดยประมาณ แอปพลิเคชันจะแสดงระยะทางและค่าโดยสารโดยประมาณให้ผู้โดยสารทราบก่อนการเดินทาง
- ติดตามสถานะการเดินทาง ผู้โดยสารสามารถติดตามสถานะการเดินทางของรถแท็กซี่ได้แบบเรียลไทม์
นอกจากนี้ Google Maps Platform ยังมี APIs ที่เป็นเครื่องมือทรงพลังสำหรับพัฒนาแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับสถานที่
นอกจากฟังก์ชัน Maps APIs ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว Google Maps Platform ยังมี APIs อื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนและน่าสนใจได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง APIs ที่เกี่ยวข้องกับแผนที่, เส้นทาง, สถานที่ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถดึงข้อมูลเหล่านี้มาใช้งานได้ อาทิ
Routes APIs เป็นชุดคำสั่งของ API ที่ช่วยในการคำนวณเส้นทางและระยะเวลาในการเดินทาง โดยสามารถคำนวณเส้นทางได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การเดิน ขับรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ขี่จักรยาน หรือขนส่งสาธารณะ ฟีเจอร์ที่โดดเด่นอย่างแสดงข้อมูลสภาพการจราจรจริงในแต่ละช่วงถนน เส้นทางเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้เชื้อเพลิง คำนวณระยะทางและเวลาเดินทางได้อย่างแม่นยำ และยังสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้อีกด้วย
Places APIs ผู้ใช้สามารถค้นหาสถานที่ต่าง ๆ ที่มีอยู่บน Google Maps Platform เช่น ร้านอาหาร โรงแรม สถานีบริการน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่ท่องเที่ยว โดยสามารถค้นหาได้ทั้งจากชื่อสถานที่ หรือจากพิกัดทางภูมิศาสตร์ นอกจากนี้ยังสามารถดึงข้อมูลรายละเอียดของสถานที่ต่าง ๆ เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เว็บไซต์ และรีวิวของลูกค้าได้อีกด้วย
Environment APIs* ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เช่น ข้อมูลศักยภาพในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์สำหรับพื้นที่หลังคาอาคาร(Solar API), ขอข้อมูลปริมาณสารมลพิศในอากาศ(Air Quality API) และข้อมูลเกสรดอกไม้(Pollen API) โดยข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และการเกษตร
หมายเหตุ : Air Quality API เปิดใช้งานได้แล้วในไทย ยกเว้น Solar API, Pollen API ที่ยังไม่เปิดใช้ในไทย
จะเห็นได้ว่า Google Maps Platform นอกจากจะมี Maps APIs ที่เปรียบเสมือนเครื่องมืออันทรงพลัง ยังมี APIs อื่น ๆ อีกมากมายที่นำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชันของธุรกิจของคุณได้
“นึกถึง Google Maps Platform นึกถึง tangerine”
tangerine ยินดีให้คำปรึกษาเพื่อนำไปประยุกต์ใช้งานธุรกิจของท่านได้อย่างเหมาะสม
หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่ marketing@tangerine.co.th หรือโทร 062 992 4493