Gemini era มาถึงแล้ว!! นำพา Google ก้าวสู่โลกแห่งอนาคต!
Google ได้มีการพัฒนา AI มามากกว่าทศวรรษ และยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกระดับไม่ว่าจะเป็น การวิจัย ผลิตภัณฑ์ และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทั้งหมดคือสิ่งที่จะพูดถึงในบทความนี้และแม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงแพลตฟอร์ม AI แต่ก็ยังเห็นโอกาสอีกมากมายในอนาคตสำหรับครีเอเตอร์ นักพัฒนา สตาร์ทอัป และทุก ๆ คน ซึ่งการช่วยผลักดันโอกาสเหล่านั้นคือยุคของ Gemini
Gemini era เปิดฉากอนาคตใหม่
เมื่อปีที่ผ่านมา Google I/O ได้เผยแผนการ Gemini เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นโมเดลที่สร้างขึ้นให้มีความหลากหลายทั้งจากการพิจารณาข้อความ รูปภาพ วิดีโอ โค้ด และอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยน Input ให้เป็น Output
และนับตั้งแต่นั้น Google ได้เปิดเผยโมเดล Gemini รุ่นแรกที่มีความสามารถมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ล้ำยุค ล้ำสมัย จากนั้นในสองเดือนต่อมา Google ได้เปิดตัว Gemini 1.5 Pro ซึ่งก็เป็นการพัฒนาครั้งสำคัญที่สามารถทำงานได้ 1 ล้านโทเค็นอย่างต่อเนื่อง เป็นการพัฒนาโมเดลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาเช่นกัน
โดย Google ต้องการให้ผู้ใช้งานทุกคนได้รับประโยชน์จากสิ่งที่ Gemini สามารถทำได้ จึงมีการพัฒนาที่รวดเร็วเพื่อแบ่งปันความก้าวหน้า ซึ่งในปัจจุบันมีนักพัฒนามากกว่า 1.5 ล้านคนที่ใช้โมเดล Gemini ในการแก้ไข Code รับข้อมูลเชิงลึกใหม่ ๆ และสร้างแอปพลิเคชัน AI อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ Google ยังนำความสามารถอันก้าวหน้าของ Gemini ไปใช้ในผลิตภัณฑ์อื่น เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งใน Search, Photos, Workspace, Android และอื่น ๆ
ความก้าวหน้าของ Gemini
ปัจจุบัน Gemini มีผู้ใช้งานกว่า 2 พันล้านคน และยังแนะนำประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่รวมไปถึงการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือที่สามารถโต้ตอบกับ Gemini ได้โดยตรงผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งบน Android และ iOS นอกจากนี้ยังมี Gemini Advanced ที่สามารถเข้าถึงโมเดลที่มีความสามารถมากที่สุดของ Google และมีผู้ใช้งานมากกว่า 1 ล้านคนในเวลาเพียงสามเดือน
พลิกโฉมการค้นหาด้วย AI
การเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นที่สุดเกี่ยวกับ Gemini คือ Google Search
ในปีที่ผ่านมา Google ได้ตอบคำถามหลายพันล้านข้อด้วยฐานะการเป็นส่วนหนึ่งของ Search Generative Experience ที่ผู้ใช้งานสามารถใช้วิธีการค้นหาแบบใหม่ และถามคำถามแบบใหม่ ด้วยคำถามที่ยาวและซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงสามารถค้นหาด้วยรูปภาพ เพื่อการได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากการท่องเว็บ
“Ask Photos” ค้นหาความทรงจำได้ง่าย ๆ ด้วย AI
ตั้งแต่ Google Photos ได้เปิดตัวเมื่อเกือบ 9 ปีที่แล้ว ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถเก็บความทรงจำที่สำคัญได้ ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณการอัปโหลดรูปภาพและวิดีโอมากกว่า 6 พันล้านรูปภาพและวิดีโอในทุก ๆ วัน
นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถใช้ Photos เพื่อการค้นหาได้ด้วย Gemini ซึ่งทำให้การใช้งานง่ายยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น
- หากเราต้องการจ่ายเงินที่อาคารจอดรถ แต่จำหมายเลขทะเบียนรถไม่ได้ ซึ่งปกติจะต้องทำการค้นหารูปภาพโดยการเลื่อนดูไปเรื่อย ๆ เพื่อค้นหาทะเบียนรถ แต่! ปัจจุบันเพียงแค่ใช้รูปภาพในการค้นหาโดยตรง ก็สามารถเจอป้ายทะเบียนหรือรถคันดังกล่าวได้ในทันที
Ask Photos ยังสามารถช่วยค้นหาความทรงจำได้ลึกขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น
- นึกถึงช่วงเวลาสำคัญของลูกสาวก็สามารถถาม Photos ได้เลย เช่น “ลูกสาวเรียนว่ายน้ำเมื่อไหร่ ?” หรือสามารถถามคำถามที่ซับซ้อนมากขึ้นได้ เช่น “โชว์รูปพัฒนาการการว่ายน้ำของลูกสาว”
ซึ่ง Gemini เป็นมากกว่าการค้นหาแบบง่าย ๆ โดยสามารถจดจำบริบทต่าง ๆ ได้ตั้งแต่การว่ายน้ำในสระ ไปจนถึงการดำน้ำในทะเล หรือแม้แต่ข้อความและวันที่บนใบรับรองการว่ายน้ำ และยังสามารถจัดเรียงรูปภาพเข้าด้วยกันเพื่อให้สามารถเก็บรายละเอียดทุกอย่างได้ และรำลึกถึงความทรงจำได้อีกด้วย ซึ่ง Google จะเปิดตัว Ask Photos ในช่วงฤดูร้อนนี้พร้อมกับความสามารถที่มากขึ้น
“รู้” แบบลึกซึ้งด้วยพลังแห่ง Multimodality และ Long context
การปลดล็อกความรู้ในรูปแบบต่าง ๆ คือเหตุผลที่ Google ได้สร้าง Gemini ให้เป็นโมเดลที่มีความหลากหลาย ดังนั้นจึงไม่เพียงแต่เข้าใจ Input แต่ยังสามารถค้นหาความเชื่อมโยงระหว่างกันได้อีกด้วย
- Multimodality : สามารถขยายขอบเขตของคำถามที่เราสามารถถามได้ และคำตอบที่เราจะได้รับกลับมาด้วย
- Long Context : Context ที่ยาวขึ้นช่วยให้สามารถรับข้อมูลเพิ่มเติมได้มากขึ้น
ซึ่งสำหรับข้อมูลจำนวนมากจะต้องใช้การทำงานกว่า 1 ล้านโทเค็น โดยสามารถทำได้ด้วย Gemini 1.5 Pro ที่นักพัฒนาหลายคนเลือกใช้ พร้อม Long Context ที่ Google ได้ปรับปรุงคุณภาพหลายอย่างทั้งการแปล การเขียนโค้ด และการใช้เหตุผล นอกจากนี้ Gemini 1.5 Pro ยังพร้อมใช้งานใน Gemini Advanced ที่สามารถใช้ได้ใน 35 ภาษาทั่วโลก
ขยายเป็น 2 ล้านโทเค็นสำหรับการดูตัวอย่างได้แบบส่วนตัว
สำหรับ 1 ล้านโทเค็นที่เปิดตัวมานั้นถือเป็นการเปิดโอกาสใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้น แต่ Google คาดว่าจะสามารถผลักดันตัวเองให้ก้าวไปไกลกว่านี้ได้ ซึ่งปัจจุบันกำลังขยาย Context window เป็น 2 ล้านโทเค็น และทำให้พร้อมใช้งานสำหรับนักพัฒนาในการแสดงตัวอย่างได้แบบส่วนตัว และจะยังคงพัฒนาต่อไปสู่เป้าหมายสูงสุดที่ไม่สิ้นสุด
Gemini 1.5 Pro ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น งานลื่นไหล ด้วยพลัง AI
เมื่อ Multimodality และ Long Context ได้มารวมตัวกัน จะช่วยให้คุณสามารถใช้งาน Google Workspace ด้วยความสามารถที่ลึกซึ้งและมีความฉลาดมากขึ้น โดยผู้ใช้งานหลายคนที่ค้นหาอีเมลใน Gmail สามารถทำงานได้ง่ายและทรงพลังมากขึ้นด้วย Gemini ตัวอย่างเช่น
- ต้องการรับแจ้งเตือนเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงเรียนของลูกของคุณนั้น Gemini สามารถช่วยในการติดตามได้ โดยขอให้ Gemini สรุปอีเมลทั้งหมดจากโรงเรียน ซึ่งภายหลังนั้นจะระบุอีเมลที่เกี่ยวข้อง และวิเคราะห์ออกมาเป็นไฟล์แนบ เช่น PDF คุณจะได้รับข้อมูลโดยสรุปประเด็นสำคัญและรายการที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ
- หากมีการเดินทางและไม่สามารถเข้าร่วมการประชุม PTA ได้ ซึ่งมีการบันทึกการประชุมยาวนานกว่า 1 ชั่วโมง และในที่ประชุมได้มีการบันทึกจาก Google Meet สามารถขอให้ Gemini สรุปไฮไลท์ให้ฟังคุณได้
- หากกำลังมองหาอาสาสมัครในการตอบคำถาม และต้องการตอบคำถามนั้นด้วยตัวเอง ก็แน่นอนว่า Gemini สามารถร่างการตอบคำถามให้คุณได้เช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างอีกมากมายนับไม่ถ้วนว่าสิ่งนี้จะช่วยทำให้ชีวิตง่ายขึ้นได้อย่างไร ? ซึ่งสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Gemini 1.5 Pro ที่พร้อมใช้งานใน Workspace Labs ได้ที่นี่
NotebookLM เปิดประสบการณ์ใหม่ กับ “Audio Outputs”
Google มีความก้าวหน้าที่มากขึ้นเกี่ยวกับการจำลองแบบหลายโมเดล อย่างเช่น Audio Overviews ใน NotebookLM ซึ่งใช้ Gemini เพื่อแปลงเอกสารเป็นบทสนทนาแบบเสียงที่เป็นส่วนตัวและโต้ตอบได้ และในอนาคตจะสามารถใช้แบบจำลองหลายโมเดลได้ยืดหยุ่นมากขึ้น โดยสามารถผสมผสาน Inputs และ Outputs ได้หลากหลายรูปแบบ
AI อัจฉริยะ ที่จะเป็นผู้ช่วยส่วนตัว ทั้งง่าย สะดวก และปลอดภัย
ความก้าวหน้าคือหนึ่งในโอกาสที่ Google มองเห็นร่วมกับ AI ซึ่งมันเป็นระบบอัจฉริยะที่แสดงการใช้เหตุผล การวางแผน และการจดจำ ทั้งยังสามารถ “คิด” ล่วงหน้าได้หลายขั้นตอน พร้อมการทำงานข้ามซอฟต์แวร์และระบบต่าง ๆ เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ และที่สำคัญคือการอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ใช้งาน อย่างเช่นในตัวอย่างของการใช้งานที่ Google กำลังปรับปรุงนี้
- ในมุมการช้อปปิ้งการเลือกซื้อรองเท่านั้นถือเป็นสนุก แต่การคืนรองเท้าที่ไม่พอดีนั้นทำให้ความสนุกลดลง ลองนึกภาพว่าถ้า Gemini สามารถทำทุกขั้นตอนให้คุณได้ เช่น
- ค้นหาใบเสร็จ
- ค้นหาหมายเลขคำสั่งซื้อจากอีเมล
- กรอกแบบฟอร์มการส่งคืนสินค้า
- นัดรับของจากบริษัทขนส่ง
อีกตัวอย่างที่ซับซ้อนกว่า
- สมมติเพิ่งย้ายไปชิคาโกให้ลองจินตนาการได้ว่า Gemini และ Chrome ทำงานร่วมกันเพื่อช่วยคุณทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อม ไม่ว่าจะเป็น การจัดระเบียบ การใช้เหตุผล และอื่น ๆ
- หรือหากต้องการสำรวจเมืองและค้นหาบริการต่าง ๆ บริเวณใกล้เคียง ตั้งแต่ร้านซักรีดไปจนถึงคนพาสุนัขเดินเล่น หรือแม้แต่การจะต้องอัปเดตที่อยู่ใหม่ในหลาย ๆ เว็บไซต์
Gemini สามารถทำงานเหล่านี้ได้ทั้งหมด และจะขอข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อจำเป็นเท่านั้นเพื่อให้สามารถควบคุมได้ตลอดเวลา และที่สำคัญ Google ยังคงตระหนักถึงเรื่องของความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และการใช้งานที่เหมาะสมสำหรับทุกคน
โลกแห่งอนาคตที่ AI ทำทุกอย่างให้คุณ!
พลังของ Gemini ร่วมด้วย Multimodality, Long Context และ Agents ทำให้เข้าใกล้เป้าหมายสูงสุดมากขึ้น นั่นคือการทำให้ AI มีประโยชน์สำหรับทุกคน
Google มองว่านี่คือวิธีที่จะสร้างความก้าวหน้ามากที่สุดในการจัดระเบียบข้อมูลในทุก Input ทำให้สามารถเข้าถึงผ่าน Output ได้ และสามารถรวมข้อมูลเข้ากับโลกของคุณได้ในแบบที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง
Google DeepMind ปล่อย Gemini 1.5 Flash เร็ว แรง และประหยัดกว่า!
เพื่อปลดล็อกศักยภาพของ AI อย่างเต็มที่ Google จะต้องบุกเบิกสิ่งใหม่ร่วมกับทีม Google DeepMind ที่กำลังทำงานอย่างหนักในเรื่องนี้
ซึ่ง Google พบเห็นความตื่นเต้นมากมายเกี่ยวกับ 1.5 Pro และ Long Context Window แต่ก็ยังได้ยินจากนักพัฒนาถึงความต้องการบางสิ่งที่เร็วขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น ดังนั้นจึงมีการเปิดตัว Gemini 1.5 Flash ซึ่งเป็นโมเดลที่สร้างขึ้นสำหรับการปรับขนาดให้เหมาะสมสำหรับ Low Latency และต้นทุนต่ำที่สุด ซึ่ง 1.5 Flash พร้อมใช้งานใน AI Studio และ Vertex AI แล้วตอนนี้
ทั้งนี้ในอนาคตยังต้องการสร้างโมเดลที่มีประโยชน์ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ซึ่ง Project Astra จะแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในหลายโหมด และความสามารถในการสนทนาได้แบบเรียลไทม์
นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาในด้านการสร้างวิดีโอและรูปภาพด้วย Veo, Imagen 3 และ Gemma 2.0 ซึ่งจะเป็นโมเดลรุ่นต่อไปสำหรับนวัตกรรม AI
เปิดตัว Trillium ยุคใหม่แห่งการประมวลผล AI
โมเดลการฝึกอบรมที่ล้ำสมัยจำเป็นต้องใช้พลังการประมวลผลจำนวนมาก ซึ่งความต้องการของอุตสาหกรรมสำหรับการคำนวณ ML นั้นเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านเท่าในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา และจะเพิ่มขึ้น 10 เท่าในทุก ๆ ปี ซึ่งเป็นเวลากว่า 25 ปีแล้วที่ Google ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิคระดับโลก ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ที่ทันสมัยพร้อมขับเคลื่อน Search ไปจนถึงหน่วยประมวลผล Tensor แบบกำหนดเองที่ขับเคลื่อนความก้าวหน้าของ AI
Gemini ได้รับการให้บริการทั้งหมดบน TPU รุ่นที่ 4, 5 และบริษัท AI ชั้นนำอื่น ๆ รวมถึง Anthropic ที่ใช้โมเดลบน TPU เช่นกัน ซึ่ง Google ได้ประกาศถึง TPU รุ่นที่ 6 ที่เรียกว่า Trillium เป็น TPU ที่มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลสูงที่สุดจนถึงปัจจุบัน โดยการปรับปรุงประสิทธิภาพการประมวลผลต่อ Chip ที่ดีขึ้น 4.7 เท่าเมื่อเทียบกับ TPU v5e รุ่นก่อนหน้า โดย Google จะทำให้ Trillium พร้อมใช้งานสำหรับลูกค้า Cloud ในช่วงปลายปี 2024
นอกจาก TPU แล้ว Google ยังมีความภูมิใจที่จะเสนอ CPU และ GPU เพื่อรองรับ Workload ทุกประเภท ซึ่งรวมถึง Axion Processors ใหม่ที่ประกาศออกไปแล้ว และเป็น Arm-based CPU ที่สามารถกำหนดเองได้ ซึ่งมอบประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมและการใช้พลังงาน โดย Google ยังเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ Cloud รายแรกที่นำเสนอ GPU Blackwell รุ่นล่าสุดของ Nvidia ซึ่งจะพร้อมใช้งานในช่วงต้นปี 2025
ซึ่ง Chips เป็นส่วนพื้นฐานของระบบอินทิเกรตแบบครบวงจร ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ที่ปรับประสิทธิภาพให้เหมาะสมและซอฟต์แวร์แบบเปิด ไปจนถึงโมเดลการใช้งานที่ยืดหยุ่น ทั้งหมดนี้จะมารวมกันใน AI Hypercomputer ที่เป็นสถาปัตยกรรมอันก้าวล้ำสำหรับธุรกิจและนักพัฒนาเพื่อรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยมีประสิทธิภาพมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับการซื้อฮาร์ดแวร์และ Chips เพียงอย่างเดียว ซึ่งความก้าวหน้าของ AI Hypercomputer เกิดขึ้นได้เนื่องจากวิธีการระบายความร้อนของของเหลวใน Data Centers ที่มีมานานเกือบทศวรรษ ก่อนที่จะกลายเป็นมาตรฐานของอุตสาหกรรม และในปัจจุบันกำลังการผลิตทั้งหมดเกือบ 1 Giga Watt และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดย Google จะยังคงลงทุนเพื่อพัฒนานวัตกรรม AI และมอบความสามารถที่ล้ำสมัยต่อไป
Google Search เปิดฉากยุคใหม่ผ่าน Gemini
โดยหนึ่งในพื้นที่การลงทุนและนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือผลิตภัณฑ์ที่ก่อตั้งขึ้นที่เรียกว่า Search ซึ่งได้สร้างขึ้นเมื่อ 25 ปีที่แล้ว เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจข้อมูลที่เคลื่อนไหวบนอินเทอร์เน็ต และเพื่อมอบความก้าวหน้าในการช่วยตอบคำถามให้ดีขึ้น
โดยได้มีการปลดล็อกคำถามและคำตอบประเภทใหม่ ๆ บนโทรศัพท์มือถือ และมีการใช้ Context การรับรู้ตำแหน่ง และข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่ดีขึ้น ด้วยความก้าวหน้าในด้านความเข้าใจภาษาและการมองเห็นของมนุษย์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งได้เปิดใช้งานวิธีการค้นหาใหม่ ๆ ด้วยเสียง ฮัมเพลง หรือรูปภาพ รวมไปถึงในตอนนี้สามารถค้นหารองเท้าใหม่ ๆ ที่ต้องการซื้อ และยังสามารถคืนสินค้าให้ได้เสมอ!
ซึ่งแน่นอนว่าการค้นหาในยุค Gemini จะนำสิ่งนี้ไปสู่อีกระดับหนึ่ง โดยผสมผสานจุดแข็งของโครงสร้างพื้นฐาน ความสามารถด้าน AI ตามมาตรฐานคุณภาพข้อมูล และประสบการณ์หลายทศวรรษของ Google ในการเชื่อมโยงกับความสมบูรณ์ที่สามารถทำงานแทนคุณได้Google Search คือ Generative AI ที่มีความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ และเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นที่สุดของ Search มากที่สุด โดยอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Gemini บน Search ได้ที่นี่
Gemini ช่วยสนทนาแบบลึกซึ้ง จัดการงาน และเข้าถึงข้อมูลมหาศาล
Gemini เป็นมากกว่าแชทบอท ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่เป็นประโยชน์ ซึ่งสามารถช่วยรับมือกับงานที่ซับซ้อนและดำเนินการในนามของคุณได้ ส่วนการโต้ตอบกับ Gemini นั้นให้ความรู้สึกเหมือนการสนทนาและใช้งานง่าย ดังนั้น Google จึงประกาศประสบการณ์เกี่ยวกับ Gemini ที่เข้าใกล้วิสัยทัศน์หรือที่เรียกว่า Live ซึ่งช่วยให้สามารถสนทนากับ Gemini แบบละเอียดโดยใช้เสียง นอกจากนี้ยังจะนำไปสู่ 2 ล้านโทเค็นไว้บน Gemini Advanced ในปลายปีนี้ ซึ่งทำให้สามารถอัปโหลดและวิเคราะห์ไฟล์ที่มีความละเอียดสูง เช่น วิดีโอและโค้ดที่ยาวมาก ซึ่งสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
Gemini บุก Android! AI อัจฉริยะ ในทุกที่ทุกเวลา
สำหรับผู้ใช้งาน Android หลายพันล้านคนทั่วโลก Google มีความรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่จะแนะนำ Gemini ที่ผสานรวมในระดับระบบปฏิบัติการด้วยฐานะผู้ช่วย AI คนใหม่ พร้อมที่จะช่วยคุณทุกที่ ทุกเวลา และได้มีการรวมโมเดล Gemini ไว้ใน Android รวมถึงโมเดลบนอุปกรณ์ล่าสุดของ Google เอง “Gemini Nano with Multimodality” ซึ่งสามารถประมวลผลข้อความ รูปภาพ เสียง และคำพูด พร้อมรักษาข้อมูลส่วนตัวบนอุปกรณ์ ซึ่งสามารถอ่านข่าวสารทั้งหมดของ Android ได้ที่นี่
Google ลุย AI สุดล้ำ ที่ปลอดภัย ไร้กังวล
Google ยังคงเข้าหาโอกาสของ AI และยังมั่นใจว่าทำด้วยความรับผิดชอบในด้านการพัฒนาเทคนิคที่ล้ำหน้าซึ่งเราเรียกว่า AI-assisted Red Teaming โดยดึงเอาความก้าวหน้าในการเล่นเกมของ Google DeepMind เช่น AlphaGo นอกจากนี้ยังได้ขยายนวัตกรรมการติดแท็ก เช่น SynthID ในข้อความและวิดีโอ เพื่อให้เนื้อหาที่สร้างโดย AI สามารถระบุได้ง่ายขึ้น สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
AI คือหัวใจสำคัญ สู่ประโยชน์ที่ทุกคนสัมผัสได้
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าที่สำคัญในขณะที่ Google มีวิธีการหรือแนวทางที่กล้าหาญและมีความรับผิดชอบในการทำให้ AI มีประโยชน์สำหรับทุกคน ซึ่งบางคนอาจกำลังนับว่า Google ได้มีการพูดถึง AI กี่ครั้งใน Google I/O 2024 นี้ โดยการพูดถึงนับครั้งไม่ถ้วนนี้มันสะท้อนถึงการที่ Google เป็นผู้นำทางด้าน AI มาอย่างนาน มีความเป็นผู้นำในการวิจัยหลายทศวรรษ พร้อมได้บุกเบิกความก้าวหน้าที่ทันสมัย และขับเคลื่อนความก้าวหน้าของ AI อย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากนี้ Google ยังมีความก้าวหน้าอีกมากมาย อาทิ
- โครงสร้างพื้นฐานชั้นนำของโลกที่สร้างขึ้นสำหรับยุค AI
- นวัตกรรมที่ล้ำหน้าใน Search ซึ่งตอนนี้ขับเคลื่อนด้วย Gemini
- ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในระดับพิเศษ พร้อมด้วย 15 ผลิตภัณฑ์ที่มีผู้ใช้กว่าครึ่งพันล้านคน
- แพลตฟอร์มที่ช่วยทุกคน ไม่ว่าจะเป็น พันธมิตร ลูกค้า ผู้สร้าง และทุกท่าน ซึ่งสามารถสร้างสรรค์ได้ในอนาคต
ความก้าวหน้านี้เกิดขึ้นได้เพราะกลุ่มนักพัฒนาที่ยอดเยี่ยม ซึ่งช่วยให้มันเป็นจริงผ่านประสบการณ์และแอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นในทุก ๆ วัน
หากท่านสนใจบริการหรือต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม
ติดต่อเราได้ที่ marketing@tangerine.co.th หรือโทร 094-999-4263
ท่านจะได้รับคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน
