ในยุคดิจิทัลที่เต็มไปด้วยข่าวสารที่หลากหลายและมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ทำให้ Cloud Infrastructure มีความสำคัญต่อธุรกิจที่ต้องการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและเทคโนโลยี ทั้งนี้ Cloud Infrastructure ยังรวมถึงการสร้างนวัตกรรมและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Cloud Infrastructure จึงถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันขององค์กรหรือวงการธุรกิจในยุคดิจิทัล ซึ่งในบทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Cloud Infrastructure คืออะไร ช่วยเพิ่มความคล่องตัวทางธุรกิจได้อย่างไร ถ้าพร้อมแล้วเราไปทำความรู้จักกันเลย
รู้จักกับ Cloud Infrastructure
Cloud Infrastructure คือระบบที่ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่จำเป็นสำหรับการให้บริการคลาวด์ (Cloud) ซึ่ง Cloud Infrastructure จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงทรัพยากรด้าน IT ได้ตามต้องการ เช่น
- ระบบเครือข่าย (Networking)
- เซิร์ฟเวอร์ (Servers)
- ซอฟต์แวร์และแพลตฟอร์ม (Software and Platforms)
- พื้นที่จัดเก็บ (Storage)
แน่นอนว่า การเข้าถึงทรัพยากรด้าน IT ที่กล่าวมานี้ สามารถใช้งานทั้งหมดได้จากทรัพยากรของ Google โดยที่การใช้งานจะถูกคิดค่าใช้จ่ายจากการใช้งานตามจริง (pay-as-you-go) ซึ่งข้อดีนี้จะทำให้องค์กรหรือธุรกิจของคุณสามารถควบคุมต้นทุน ประหยัดเวลา และปรับเปลี่ยนทรัพยากรได้ตามความต้องการจริง ทำให้ธุรกิจเกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ประโยชน์ของ Cloud Infrastructure ต่อองค์กร
Cloud Infrastructure มีประโยชน์ต่อองค์กรหลายด้าน ดังนี้
- ลดต้นทุน
ข้อดีของ Cloud Infrastructure ที่เด่นชัด นั่นคือ การลดต้นทุน ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนด้านฮาร์ดแวร์และการบำรุงรักษาฮาร์ดแวร์ที่ค่าใช้จ่ายสูง Cloud Infrastructure จึงกลายเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้องค์กรสามารถจ่ายเฉพาะการใช้งานจริง หรือที่เรียกว่า (Pay-as-you-go)
- ความยืดหยุ่น
Cloud Infrastructure สามารถปรับขนาดของทรัพยากรได้ตามความต้องการขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นการลดหรือเพิ่มก็ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งสามารถเลือกปรับขนาดได้ในช่วงที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากหรือต้องการทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ
- การเข้าถึงข้อมูลไอที
แน่นอนว่า การใช้เครื่องมือ Cloud Infrastructure ข้อดีของเครื่องมือนี้คือการใช้งานได้ทุกที่ พนักงานทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการได้จากทุกที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งจุดนี้จะสร้างความคล่องตัวในการทำงานขององค์กรได้เป็นอย่างดี
- พัฒนาธุรกิจได้ไวยิ่งขึ้น
Adaptive การพัฒนาธุรกิจตามเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ ๆ Gemini in Cloud เช่น ให้ AI ช่วยในการ Monitor ดูแลระบบล่มหรือเปล่า, ตรวจสอบการโจมตีไซเบอร์และทำการป้องกันทันที หรือการใช้ AI และ Machine Learning เพื่อให้องค์กรสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างทันที ซึ่งจะช่วยให้เกิดการตัดสินใจที่รวดเร็วพร้อมข้อมูลสนับสนุนในการตัดสินใจ
- ความปลอดภัย
Cloud Infrastructure มีระบบรักษาความปลอดภัยที่มีมาตรฐานและเข้มงวด เช่น การเข้ารหัสข้อมูลและการสำรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กรได้เป็นอย่างดี และช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่องค์กรของคุณได้มากยิ่งขึ้น
ปัญหาที่ธุรกิจกำลังเผชิญกับ On-Premise และ Cloud Infrastructure ช่วยแก้ไขได้อย่างไร
- ค่าใช้จ่ายที่สูงและไม่สามารถคาดการณ์ได้: การลงทุนในฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และการบำรุงรักษา On-Premise เป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่ยากต่อการควบคุม Cloud Infrastructure ช่วยให้คุณจ่ายตามการใช้งานจริง (Pay-as-you-go) ซึ่งจะลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และเพิ่มความสามารถในการคาดการณ์ค่าใช้จ่าย
- ความยากลำบากในการปรับขนาด: การเพิ่มหรือลดทรัพยากร On-Premise เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน Cloud Infrastructure ช่วยให้คุณปรับขนาดได้อย่างรวดเร็วและยืดหยุ่น รองรับการเติบโตของธุรกิจหรือความต้องการที่เปลี่ยนแปลง
- ขีดจำกัดของเทคโนโลยี: ระบบ On-Premise ที่ล้าสมัยอาจไม่รองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้องค์กรของคุณพลาดโอกาสในการสร้างสรรค์นวัตกรรม Cloud Infrastructure เปิดประตูสู่นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้องค์กรของคุณสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และมอบบริการที่เหนือกว่าคู่แข่ง
- ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย: การดูแลรักษาความปลอดภัย On-Premise ต้องใช้ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญสูง ในขณะที่ Cloud Infrastructure มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก ช่วยปกป้องข้อมูลและระบบของคุณจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ด้านต่าง ๆ
- ความต่อเนื่องทางธุรกิจ: ระบบ On-Premise มีความเสี่ยงต่อการหยุดชะงักหรือเหตุขัดข้องทางเทคนิค โดย Cloud Infrastructure มีระบบสำรองข้อมูลและกู้คืนระบบ ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินต่อไปได้แม้ในสถานการณ์วิกฤต
โอกาสทางธุรกิจที่คุณอาจพลาดไป หากยังไม่ใช้ Cloud Infrastructure
- การเข้าถึงตลาดใหม่: Cloud Infrastructure ช่วยให้คุณขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
- เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: Cloud Infrastructure ช่วยให้พนักงานเข้าถึงข้อมูลและแอปพลิเคชันได้จากทุกที่ทุกเวลา เพิ่มประสิทธิภาพและความร่วมมือในการทำงาน
- สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน: Cloud Infrastructure ช่วยให้คุณนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ได้ก่อนคู่แข่ง สร้างความแตกต่างและความได้เปรียบในการแข่งขัน
- การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง: Cloud Infrastructure ช่วยให้คุณปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว รักษาความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว
FAQ
Cloud Infrastructure แตกต่างจาก Server แบบ On-Premise อย่างไร?
Cloud Infrastructure คือ เครื่องมือที่อยู่ภายใต้การดูแลของผู้ให้บริการคลาวด์ (cloud provider) สามารถเข้าถึงได้จากที่ไหนก็ได้ผ่านอินเทอร์เน็ต ส่วน Server แบบ On-Premise คือ เครื่องมือที่อยู่ภายในองค์กร ซึ่งถูกดูแลรักษาและจัดการโดยทีมไอทีภายในองค์กร
IaaS, PaaS, และ SaaS แตกต่างกันอย่างไร?
IaaS, PaaS, และ SaaS เป็นรูปแบบการให้บริการคลาวด์ที่มีความแตกต่างกันในด้านการจัดการและการใช้งาน ดังนี้
- IaaS (Infrastructure as a Service): ผู้ใช้สามารถจัดการระบบปฏิบัติการ, แอปพลิเคชัน, และซอฟต์แวร์อื่น ๆ ได้เอง
- PaaS (Platform as a Service): ผู้ใช้พัฒนาแอปพลิเคชันโดยไม่ต้องคำนึงเกี่ยวกับการจัดการฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์พื้นฐาน
- SaaS (Software as a Service): ผู้ใช้เข้าถึงและใช้งานแอปพลิเคชันได้ทันที โดยจะมีผู้ให้บริการดูแลทั้งหมด
Public Cloud คืออะไร?
Public Cloud คือ Cloud ที่เปิดให้ใช้บริการแบบสาธารณะผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้องค์กรต่าง ๆ หรือบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เช่น Google Cloud Platform (GCP), Microsoft Azure และ Amazon Web Services (AWS) เป็นต้น
Hybrid Cloud คืออะไร?
Hybrid Cloud คือ การออกแบบโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่รวมระบบ Private Cloud และ Public Cloud เข้าด้วยกัน ทำให้ใช้ประโยชน์จากคลาวด์ทั้งสองประเภทได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Multi-Cloud คืออะไร?
Multi-Cloud คือ การที่องค์กรเลือกใช้บริการคลาวด์จากหลากหลายผู้ให้บริการ ซึ่งคือการที่องค์กรจะไม่พึ่งพาเพียงผู้ให้บริการคลาวด์รายเดียว โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการทรัพยากรอีกด้วย
สรุป
Cloud Infrastructure คือระบบที่ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สำหรับให้บริการคลาวด์ ช่วยลดต้นทุน เพิ่มความยืดหยุ่น และเข้าถึงข้อมูลได้จากทุกที่ มีองค์ประกอบหลัก 4 ประการ ได้แก่ ระบบเครือข่าย, เซิร์ฟเวอร์, ซอฟต์แวร์ และพื้นที่จัดเก็บ นอกจากนี้ ยังช่วยแก้ไขปัญหาค่าใช้จ่ายสูง ความยากลำบากในการปรับขนาด และความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจและนวัตกรรมใหม่ ๆ Cloud Infrastructure จึงเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตและความสามารถในการแข่งขันในยุคดิจิทัลนี้
หากองค์กรของคุณมีความสนใจหรือมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Cloud Infrastructure
สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญของ Tangerine ได้ที่ marketing@tangerine.co.th