BLOGS

Cloud Computing ปลดล็อกศักยภาพธุรกิจ

Tangerine • 12/12/2024
Tangerine Co., Ltd.
Cloud Computing ปลดล็อกศักยภาพธุรกิจ
cloud-computing

Cloud Computing การประมวลผลแบบคลาวด์ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่เก็บข้อมูลออนไลน์ แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังช่วยให้ธุรกิจขยายตัวได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ด้วยเทคโนโลยีนี้ ธุรกิจสามารถเข้าถึงทรัพยากรการประมวลผลทรงพลัง เช่น การประมวลผลรวดเร็ว การจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) รวมถึงแพลตฟอร์มสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการต่าง ๆ ที่สามารถปรับขนาดได้ตามความต้องการแบบทันทีทันใด การใช้คลาวด์ยังช่วยลดต้นทุนในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและซอฟต์แวร์ เนื่องจากสามารถจ่ายตามการใช้งานจริง (Pay-as-you-go) ทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและคล่องตัวมากขึ้น 

Cloud Computing คืออะไร? เข้าใจวิธีการทำงานง่าย ๆ

Cloud Computing หรือ การประมวลผลแบบคลาวด์ คือการให้บริการทรัพยากรด้านคอมพิวเตอร์ผ่านอินเทอร์เน็ต เช่น เซิร์ฟเวอร์ พื้นที่จัดเก็บข้อมูล ฐานข้อมูล และซอฟต์แวร์ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยไม่จำเป็นต้องจัดการโครงสร้างพื้นฐานภายในองค์กรเอง Cloud Computing ผู้ใช้สามารถกำหนดปรับขนาด และเพิ่มลดสเปคจำนวนของทรัพยากรที่ต้องการได้ตามความจำเป็น 

การทำงานของ Cloud Computing จะเชื่อมต่อผู้ใช้กับแพลตฟอร์มคลาวด์ ซึ่งผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการการประมวลผลที่เช่าใช้งานได้ เซิร์ฟเวอร์กลางจะจัดการการสื่อสารทั้งหมดระหว่างอุปกรณ์ของลูกค้าและเซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ โดยมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลนี้ปลอดภัย

ปัญหาที่ Cloud Computing แก้ไขได้

ปัญหา-ที่cloud-computing-แก้
  • ปัญหาเรื่องฮาร์ดแวร์ แทนที่จะต้องซื้อเซิร์ฟเวอร์ ระบบจัดเก็บข้อมูล และอุปกรณ์อื่น ๆ มาติดตั้งเอง คุณสามารถเช่าใช้ทรัพยากรเหล่านี้จากผู้ให้บริการ Cloud Computing ได้เลย ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการลงทุนครั้งแรกอย่างมาก
  • ปัญหาเรื่องการขยายระบบ เมื่อธุรกิจของคุณเติบโต คุณสามารถเพิ่มทรัพยากรคอมพิวเตอร์ได้ทันที Cloud Computing ให้ความยืดหยุ่นในการรองรับการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว โดยไม่ต้องกังวลว่าระบบจะรองรับไม่ไหว
  • ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย จ่ายค่าบริการตามปริมาณทรัพยากรที่ใช้จริง ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับทรัพยากรที่ไม่ได้ใช้งาน
  • ปัญหาเรื่องความปลอดภัย การจัดการความปลอดภัยในองค์กรเองต้องใช้ทรัพยากรมากและมีความเสี่ยงสูง Cloud Computing มีมาตรการความปลอดภัยขั้นสูง เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การตรวจสอบความปลอดภัย และการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์

ทำไม IT Manager ต้องสนใจ

สิ่งที่ IT Manager ทุกคนควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะ Cloud Computing นำมาซึ่งประโยชน์มากมายที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว

หนึ่งในผลประโยชน์สำคัญคือการ “ลดต้นทุน” โดยไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานไอทีขนาดใหญ่ ทั้งการจัดซื้อฮาร์ดแวร์และการดูแลรักษา ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว “อีกทั้งยังเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจาก Cloud Computing ช่วยให้สามารถปรับใช้และขยายระบบได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยให้ทีมงานสามารถทำงานร่วมกันได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตามเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต  

สุดท้าย Cloud Computing ยังเป็นพื้นฐานสำหรับ “สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ” เช่น Artificial Intelligence(AI), Machine Learning (ML) และ Big Data ทำให้ CTO สามารถนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ สร้างโอกาสใหม่ ๆ ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ประโยชน์ของ Cloud Computing สำหรับองค์กร

  • ลดต้นทุน:
    • ไม่ต้องลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์
    • จ่ายตามการใช้งานจริง
    • ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและการดูแลรักษา
  • เพิ่มความคล่องตัว:
    • ขยายระบบได้รวดเร็วตามความต้องการของธุรกิจ
    • ปรับเปลี่ยนระบบได้ง่าย มีความยืดหยุ่น
  • เพิ่มความปลอดภัย:
    • ระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย
    • การสำรองข้อมูลอัตโนมัติ
  • ส่งเสริมนวัตกรรม:
    • เข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น
    • พัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ ๆ ได้เร็วขึ้น

ถ้าคุณกำลังมองหาทางลดต้นทุนด้าน IT และเพิ่มความคล่องตัวให้กับธุรกิจของคุณอยู่หรือไม่? Tangerine  มีCloud Solution ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของธุรกิจของคุณ ช่วยให้คุณสามารถย้ายระบบไปสู่ Cloud ได้อย่างราบรื่น พร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนกลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุด

เปรียบเทียบ Cloud กับ On-Premise 

1. การลงทุนเริ่มต้น 

  • Cloud: ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นน้อย เพราะจ่ายตามการใช้งานแบบ Subscription รายเดือน
  • On-Premise: ต้องลงทุนในฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด ซึ่งมักมีค่าใช้จ่ายสูง

2. ความยืดหยุ่นและการขยายระบบ

  • Cloud: สามารถขยายหรือปรับลดทรัพยากรได้ตามความต้องการแบบทันที 
  • On-Premise: การขยายระบบต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่มและอาจใช้เวลาในการติดตั้ง

3. การบำรุงรักษา

  • Cloud: ผู้ให้บริการจะดูแลการบำรุงรักษาระบบทั้งหมด ทั้งการอัปและจัดการเซิร์ฟเวอร์
  • On-Premise: องค์กรต้องรับผิดชอบการบำรุงรักษาทั้งหมดเอง รวมถึงการจัดการระบบและการดูแลฮาร์ดแวร์ ซึ่งต้องใช้ทรัพยากรและบุคลากรเพิ่มเติม

4. ค่าใช้จ่ายแอบแฝง 

  • Cloud: ค่าใช้จ่ายหลักคือค่า Subscription รายเดือน แม้อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในบางกรณี แต่ก็สามารถคาดการณ์และควบคุมได้ง่าย
  • On-Premise: มีค่าใช้จ่ายแฝงมากมาย เช่น ค่าดูแลระบบ, ค่าจ้างบุคลากร IT, ค่าไฟและค่าแอร์ในการรักษาสภาพแวดล้อมของเซิร์ฟเวอร์ รวมถึงค่า MA ที่ต้องต่ออายุทุกปี

5. การเข้าถึงและการทำงานร่วมกัน 

  • Cloud: สามารถเข้าถึงระบบและข้อมูลจากที่ใดก็ได้ที่มีอินเทอร์เน็ต ทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่การทำงานระยะไกลเป็นเรื่องปกติ
  • On-Premise: การเข้าถึงข้อมูลจำกัดเฉพาะในพื้นที่ที่ติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งทำให้การทำงานระยะไกลยุ่งยากมากขึ้น

ประเภทของ Cloud Computing มีแบบใดบ้าง

ประเภทของ-cloud-computing 

บริการ Cloud Computing ที่ได้รับความนิยมมีด้วยกัน 3 รูปแบบ

Cloud Computing มี 3 รูปแบบหลักที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ SaaS, PaaS และ IaaS  แต่ละรูปแบบมีลักษณะเด่นและเหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป

  • Software as a Service (SaaS) เป็นบริการซอฟต์แวร์ที่ให้ผู้ใช้เข้าถึงและใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์บนเครื่องของตนเอง ผู้ใช้จะจ่ายค่าบริการเป็นรายเดือนหรือรายปีตามการใช้งาน ตัวอย่างบริการของ SaaS เช่น Gmail, Google Docs, Microsoft 365, Asana, Trello และอื่น ๆ อีกมากมาย เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่ต้องการใช้งานแอปพลิเคชันสำเร็จรูปอย่างรวดเร็วและประหยัด
  • Platform as a Service (PaaS)  เป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการเครื่องมือและบริการต่าง ๆ โดยเฉพาะสำหรับ Deverloper ที่ต้องการการพัฒนาและใช้งานแอปพลิเคชัน และสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันของตนเองโดยไม่ต้องจัดการกับโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด ตัวอย่างเช่น Google App Engine, Microsoft Azure และ AWS Elastic Beanstalk
  • Infrastructure as a Service (IaaS) ให้บริการเช่าทรัพยากรทางด้านไอที เช่น เซิร์ฟเวอร์ การย้ายข้อมูล และการจัดเก็บข้อมูล โดยผู้ใช้ไม่ต้องกังวลกับเรื่องการจัดการโครงสร้างพื้นฐาน และรองรับการขยายตัวของธุรกิจ ผู้ให้บริการจะดูแลทุกอย่างให้หมด ทำให้ธุรกิจขนาดสามารถโฟกัสไปที่งานหลักได้มากขึ้น ธุรกิจใดที่กำลังขยายตัวหรือธุรกิจขนาดใหญ่ที่ไม่ต้องการลงทุนเรื่องฮาร์ดแวร์ IaaS เหมาะอย่างยิ่งกับสำหรับธุรกิจเหล่านี้ ตัวอย่างบริการ Microsoft Azure, Amazon EC2 และ Google App Engine

ทำไมควรเปลี่ยนไปใช้ Cloud Computing ขับเคลื่อนองค์กรและธุรกิจ

การประมวลผลแบบคลาวด์มีข้อดีมากมายที่ทำให้ธุรกิจควรพิจารณาเปลี่ยนมาใช้ ความยืดหยุ่นและความน่าเชื่อถือที่สูงขึ้น ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ประสิทธิภาพและความสามารถในการทำงานที่เพิ่มขึ้น ช่วยให้การดำเนินงานได้อย่างเต็มศักยภาพจากการทรัพยากร ฟีเจอร์ต่าง ๆ บนคลาวด์ที่ช่วยอำนวยความสะดวก การลดค่าใช้จ่ายด้านไอที ช่วยประหยัดต้นทุนในการลงทุนและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมนวัตกรรม ช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ๆ ได้รวดเร็วขึ้น 

นอกจากนี้ การนำระบบคลาวด์มาใช้ทางองค์กรและธุรกิจไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในครั้งเดียว สามารถเลือกใช้แนวทางแบบไฮบริด ซึ่งผสานการใช้คลาวด์กับโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ ทำให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อลดผลกระทบต่อการดำเนินงานในช่วงแรก ๆ ของการปรับเปลี่ยนได้ 

การใช้งาน Cloud Computing ในธุรกิจ (Use Cases)

Use Cases 1  จากความร่วมมือระหว่าง Tangerine และ Chomchob ในการออกแบบระบบ Google Cloud Infrastructure โดยทาง Chomchob ต้องการปรับปรุงระบบให้ทันสมัยตาม โดยครอบคลุมการ Integrate ระบบ การจัดการ Billing, Database, DevOps และการทำ Application Migration 

ทาง Tangerine จึงออกแบบ System Architecture เพื่อรองรับการขยายตัว Hybrid Connection และ VPC โดยเน้นความเสถียร ปลอดภัย ลดค่าใช้จ่าย พร้อมรองรับการเติบโตในอนาคต

Use Cases 2  TopValue.com ต้องการปรับปรุงระบบ E-commerce ให้รองรับการเติบโตของธุรกิจ และต้องการลดต้นทุน โดยมองหาแพลตฟอร์มคลาวด์ที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพสูง Tangerine นำเสนอการย้ายระบบ (Migrate) ไปยัง Google Cloud Platform โดยใช้วิธี Lift and Shift เพื่อลดความซับซ้อนและรวดเร็วในการดำเนินการ 

ผลลัพธ์ที่ได้ คือระบบมีความเสถียรสูงขึ้น รองรับการใช้งานได้มากขึ้น และสามารถปรับขนาดได้ตามความต้องการ ทีมงาน TopValue สามารถบริหารจัดการระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Tangerine มีบริการ Cloud Solutions ให้คำปรึกษาและบริการเต็มรูปแบบ

ด้วยบริการคลาวด์ที่หลากหลายและปรับแต่งได้ Cloud Computing ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก หรือใหญ่ และประหยัดต้นทุนด้วยระบบคิดค่าบริการตามการใช้งานจริง พร้อมบริการคลาวด์ที่ครอบคลุมหลากหลายความต้องการ

Tangerine มีความเชี่ยวชาญในด้าน Cloud Solutions โดยให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การวางแผน ออกแบบโครงสร้างพื้นฐาน การย้ายระบบ (Migrate) ไปจนถึงการดูแลและบำรุงรักษาหลังการติดตั้ง ทีมงานของ Tangerine ช่วยให้ลูกค้าได้รับโซลูชันที่ตรงตามความต้องการ และช่วยพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงบน Google Cloud Platform

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Contact Form_TH Sources