ปัจจุบัน Google Maps Platform (GMP) เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับวงการนักพัฒนาแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานแผนที่ เนื่องจาก Google Maps Platform มีข้อมูลที่ครอบคลุมทั่วโลกและเชื่อถือได้ ทำให้หลายองค์กรหรือธุรกิจต่าง ๆ เกิดความสนใจอยากนำข้อมูลจากแพลตฟอร์มนี้มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าได้อย่างทันสมัยมากที่สุด
และเพื่อความสะดวกของทุกท่านที่ความสนใจ Google Maps Platform วันนี้ Tangerine ได้รวบรวมรายละเอียดและ Google Maps Platform ราคาต่าง ๆ มาไว้ที่นี่แล้ว
รู้จักกับ Google Maps Platform (GMP) ที่จะช่วยให้ข้อมูลด้านพื้นที่ เป็นเรื่องง่าย
อย่างที่หลายคนทราบกันดี ไม่ว่าจะเป็น Google Maps Platform ราคาไหนก็ตามจะมีฟีเจอร์หลัก ๆ ของ Google Maps Platform (GMP) คือ ชุดเครื่องมือและ APIs ที่ทรงพลัง ที่จะช่วยให้เหล่านักพัฒนาสามารถนำข้อมูลด้านแผนที่ ไปใส่ไว้ในแอปพลิเคชันของธุรกิจได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงแผนที่, ค้นหาสถานที่, การค้นหาเส้นทาง, หรือแสดงข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์ ซึ่งทำให้ Google Maps Platform กลายเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสำหรับวงการนักพัฒนาแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ที่ต้องการนำฟังชันก์ด้านแผนที่มาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้กับธุรกิจของตนเอง
ประโยชน์หลักๆ ของ Google Maps Platform
- ความแม่นยำและครอบคลุม: ข้อมูลแผนที่และสถานที่ทั่วโลกที่มีความละเอียดสูงและอัปเดตอยู่เสมอ ทำให้แอปของคุณมีความน่าเชื่อถือ
- เครื่องมือที่หลากหลาย: มี APIs และ SDK ให้เลือกใช้มากมาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็น Web, Android, หรือ iOS
- ปรับแต่งได้ตามใจ: สามารถปรับแต่งแผนที่และฟีเจอร์ต่างๆ ให้เข้ากับสไตล์และฟังก์ชันของแอปของคุณได้
- รองรับการใช้งานหลากหลาย: เหมาะสำหรับแอปทุกประเภท ตั้งแต่แอปนำทาง, แอปเรียกรถ, แอปส่งอาหาร, ไปจนถึงแอปธุรกิจต่างๆ
- ใช้งานง่าย: มีเอกสารและตัวอย่างโค้ดที่เข้าใจง่าย พร้อมชุมชนนักพัฒนาที่คอยให้ความช่วยเหลือ
จ่ายเท่าที่ใช้ ราคาค่าบริการ Google Maps Platform
Google Maps Platform มีการกำหนดราคาไว้ตามปริมาณการใช้งานจริง (Pay-as-you-go) นั่นหมายความว่า ค่าบริการจะขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งานจริงของแต่ละบริการ
สำหรับรายละเอียดการเรียกใช้ APIs และ Google Maps Platform ราคาต่าง ๆ สามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Google Maps Platform เพื่อให้ท่านได้รับข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและแม่นยำ โดยวันนี้เราได้รวบรวมรายละเอียดของ 4 รูปแบบหลักมาไว้ให้ทุกท่าน ดังนี้
1. Maps
Maps API จะให้บริการข้อมูลแผนที่ฐาน (Basemap) ที่มีการอัปเดตใกล้เคียงกับสภาพจริงและเป็นปัจจุบันมากที่สุด ซึ่งมาพร้อมกับข้อมูลรูปภาพ Street View แบบ Panorama 360 องศา ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเห็นสภาพแวดล้อมได้อย่างสมจริง
ความสามารถหลักของ Maps API
- แสดงผลแผนที่หลากหลายรูปแบบ: ไม่ว่าจะเป็นแผนที่แบบปกติ แผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม หรือแผนที่ภูมิประเทศ Maps API ช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้รูปแบบแผนที่ที่เหมาะสมกับแอปพลิเคชันของคุณได้อย่างง่ายดาย
- ควบคุมการแสดงผลแผนที่: คุณสามารถปรับแต่งการแสดงผลแผนที่ได้อย่างละเอียด เช่น การซูมเข้า-ออก การปรับมุมมอง การเลือกภาษา และการแสดงข้อมูลต่างๆ บนแผนที่
- เพิ่มเครื่องหมายและเส้นทาง: เพิ่มเครื่องหมายเพื่อระบุตำแหน่งที่สำคัญ เช่น สาขาของธุรกิจ สถานที่ท่องเที่ยว หรือจุดนัดพบ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างและแสดงเส้นทางระหว่างจุดต่างๆ บนแผนที่ได้อย่างง่ายดาย
- รองรับการใช้งานบนหลากหลายแพลตฟอร์ม: Maps API สามารถใช้งานได้ทั้งบนเว็บไซต์ แอปพลิเคชันมือถือ และอุปกรณ์อื่นๆ ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงผู้ใช้ได้อย่างกว้างขวาง
2. Routes
สำหรับฟีเจอร์ Routes ของ Google Maps Platform ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างฟังก์ชันการนำทางและการวางแผนเส้นทางที่ทรงพลังและปรับแต่งได้ตามความต้องการของแอปพลิเคชัน ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาเส้นทางที่รวดเร็วที่สุด การคำนวณระยะทางและเวลาเดินทาง หรือการแสดงข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์
ความสามารถหลักของ Routes API
- คำนวณเส้นทางที่เหมาะสมที่สุด: Routes API สามารถคำนวณเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดโดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น จุดเริ่มต้น จุดหมายปลายทาง โหมดการเดินทาง (รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เดินเท้า หรือขนส่งสาธารณะ) สภาพการจราจร และข้อจำกัดอื่นๆ ที่คุณกำหนด
- แสดงข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์: ผู้ใช้สามารถคำนวณข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์ได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น เช่น จุดที่การจราจรติดขัด หรืออุบัติเหตุบนท้องถนน ช่วยให้สามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพและหลีกเลี่ยงความล่าช้า
- คำนวณระยะทางและเวลาเดินทาง: Routes API สามารถคำนวณระยะทางและเวลาเดินทางที่แม่นยำ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถประมาณเวลาเดินทางได้อย่างแม่นยำและวางแผนการเดินทางล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- รองรับการเดินทางหลากหลายรูปแบบ: ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เดินเท้า หรือขนส่งสาธารณะ Routes API สามารถรองรับการเดินทางทุกรูปแบบ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกวิธีการเดินทางที่เหมาะสมกับความต้องการได้
- ปรับแต่งเส้นทางตามความต้องการ: คุณสามารถปรับแต่งเส้นทางตามความต้องการเฉพาะ เช่น การหลีกเลี่ยงทางด่วน การเลือกเส้นทางที่ประหยัดพลังงาน หรือการเลือกเส้นทางที่ผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ
3. Places
สำหรับฟีเจอร์ Places ของ Google Maps Platform ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลสถานที่ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาสถานที่ใกล้เคียง การแสดงรายละเอียดสถานที่ หรือการแนะนำสถานที่ที่น่าสนใจ Places API ช่วยให้คุณสามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่สมบูรณ์แบบและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างลงตัว
ความสามารถหลักของ Places API
- ค้นหาสถานที่: ค้นหาสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกด้วยคำค้นหาที่หลากหลาย เช่น ชื่อสถานที่ ประเภทสถานที่ หรือตำแหน่งที่ตั้ง
- แสดงรายละเอียดสถานที่: เข้าถึงข้อมูลรายละเอียดของสถานที่ เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เวลาทำการ รูปภาพ รีวิว และข้อมูลอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์
- ค้นหาสถานที่ใกล้เคียง: ค้นหาสถานที่ที่อยู่ใกล้เคียงกับตำแหน่งที่กำหนด เช่น ร้านอาหาร โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว หรือบริการต่างๆ
- Autocomplete: ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกรอกข้อมูลสถานที่ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำด้วยฟังก์ชัน autocomplete ที่จะแนะนำสถานที่ที่ตรงกับคำค้นหา
4. Environment
สำหรับฟีเจอร์ Environment ของ Google Maps Platform ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกด้านสิ่งแวดล้อม เช่น คุณภาพอากาศ ระดับละอองเกสร และ Solar เพื่อนำไปสร้างสรรค์แอปพลิเคชันที่ส่งเสริมความยั่งยืนและสร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้และสังคม
สำหรับ SKU นี้ มีบางความสามารถที่ยังไม่ได้เปิดให้ใช้งานแบบ General Availability (GA) ซึ่งอยู่ในระหว่างการทดสอบหรือพัฒนา และอาจมีข้อจำกัดในการใช้งานทำให้ผู้ใช้ทุกคนยังไม่สามารถใช้งานได้นั่นเอง
ความสามารถหลักของ Environment API
- Air Quality API: ให้ข้อมูลคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์และรายชั่วโมงย้อนหลัง รวมถึงดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI), มลพิษทางอากาศ (ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดใช้งานในไทยได้แล้ว)
- Pollen API: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับระดับละอองเกสรดอกไม้ รวมถึงชนิดของละอองเกสร พืชที่เกี่ยวข้อง และดัชนีละอองเกสร
- Solar API: ประเมินศักยภาพพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับอาคารต่างๆ ทั่วโลก ช่วยในการวางแผนและติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์
การคิดค่าใช้จ่ายของ Google Maps Platform
คิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริง โดยคิดตามปริมาณการเรียก APIs ทำให้ธุรกิจสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายในการเรียกใช้ APIs ประเภทต่าง ๆ และปริมาณความถี่ในการเรียกใช้งานในแอปของธุรกิจคุณนั่นเอง
การคิดค่าใช้จ่ายของ Google Maps Platform ราคาต่าง ๆ นั้นยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานจริงของคุณ โดยมีหลักการสำคัญดังนี้
1. คิดตามการใช้งาน (Pay-as-you-go): คุณจะถูกเรียกเก็บเงินเฉพาะการใช้งาน API และบริการต่างๆ ที่คุณเลือกใช้เท่านั้น ไม่มีค่าธรรมเนียมรายเดือนหรือค่าใช้จ่ายแอบแฝง
2. SKU-Based Pricing: แต่ละบริการจะมี SKU ที่แตกต่างกันไป แต่ละ SKU จะมีราคาและข้อจำกัดการใช้งานที่กำหนดไว้ คุณสามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการและงบประมาณ
3. เครดิตฟรีรายเดือน: Google มอบเครดิตฟรี $200 ทุกเดือนสำหรับการใช้งาน Google Maps Platform คุณสามารถใช้เครดิตนี้ทดลองใช้บริการต่างๆ หรือใช้งานในปริมาณน้อยได้ฟรี
4. เครื่องมือประเมินการค่าใช้จ่าย: Google มีเครื่องมือประมาณการค่าใช้จ่ายให้ คุณสามารถใส่ข้อมูลการใช้งานที่คาดการณ์ไว้ เพื่อดูค่าใช้จ่ายโดยประมาณก่อนเริ่มใช้งานจริง
5. ส่วนลดพิเศษ เมื่อมีประมาณการใช้งานที่สูงขึ้น: สำหรับการใช้งานในปริมาณมาก Google มีส่วนลดพิเศษ ตามเกณฑ์การใช้งาน ยิ่งคุณใช้งานมากเท่าไหร่ ราคาต่อหน่วยก็จะยิ่งถูกลง
เคล็ดลับในการประหยัดค่าใช้จ่าย
- เพิ่มประสิทธิภาพโค้ด: ปรับปรุงโค้ดของคุณเพื่อลดจำนวนการเรียกใช้ API ที่ไม่จำเป็น
- ใช้เครดิตฟรี $200 ให้คุ้มค่า: Google Maps Platform จะมีเครดิตส่วนลด $200 ให้ธุรกิจของคุณได้ โดยเป็นส่วนลดจากปริมาณที่แอปของคุณใช้ต่อเดือน
- ยิ่งใช้มาก ยิ่งได้ส่วนลด : หากสมัครใช้งาน Google Maps Platform กับ Tangerine จะได้ส่วนลดค่าใช้จ่ายในราคาสุดพิเศษ ตาม Tier การใช้งาน
ยกตัวอย่างเพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจ
สำหรับ Google Maps Platform ราคาต่าง ๆ มีโมเดลการคิดเงินแแบบขั้นบันได (Pay Per Use) นั่นคือ ยิ่งใช้งานเยอะ ราคาต่อครั้งจะยิ่งถูกลง ดังนี้
- Dynamic Maps มียอดการใช้งานทั้งหมด 700,000 ครั้ง/เดือน แบ่งออกเป็น Tier1 100,000 ครั้ง และ Tier2 600,000 ครั้ง จะสังเกตได้ว่า ยิ่งมีการใช้งานเยอะจำนวน Tier จะยิ่งถูกลง
- Dynamic Street View มียอดการใช้งานทั้งหมด 500,000 ครั้ง/เดือน แบ่งออกเป็น Tier1 100,000 ครั้ง และ Tier2 400,000 ครั้ง ตามลำดับ เมื่อคำนวณเสร็จแล้วจะได้ยอดรวมทั้งหมด (Total) ของ 2 SKU ก่อนนำไปหักลบกับยอดฟรีเครดิต $200/เดือน ที่ทาง Google ให้เครดิตมาในทุก ๆ เดือน จากนั้นจะได้ยอดที่ต้องชำระ (Grand Total) ของเดือนนั้นตามภาพตัวอย่างข้างต้น
ซื้อ Google Maps Platform กับ Tangerine
ปัจจุบันการซื้อ Google Maps Platform (GMP) สามารถซื้อได้จากทางหน้าเว็บไซต์ Google Maps Platform โดยตรงและซื้อผ่าน Tangerine Google Cloud Partner ซึ่งจะได้ราคาที่ดีกว่าและถูกกว่าการผูกบัตรเครดิตส่วนตัวหรือองค์กรโดยตรง
สำหรับการซื้อ Google Maps Platform ราคาที่ดีที่สุด กับ Tangerine จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 Tiers ยิ่งมีการใช้งานที่มากเท่าไหร่ ราคายิ่งถูกลง นอกจากนี้หากลูกค้าท่านใดที่สนใจซื้อ Google Maps Platform กับ Tangerine เรายังมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา แก้ไขปัญหาการใช้งานต่าง ๆ อย่างตรงจุด ช่วยให้องค์กรของท่านประหยัดค่าใช้จ่าย และสามารถวางแผนต่อยอดการใช้งานได้อย่างสูงสุดอีกด้วย
หากท่านสนใจบริการหรือต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม
ติดต่อเราได้ที่ marketing@tangerine.co.th หรือโทร 06-2992-4493
ท่านจะได้รับคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน