หากเราว่าด้วยเรื่องของภาษา ก็อาจมองว่าเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งที่เรียกว่า “กำแพงทางด้านภาษา” ก็ได้ เพราะต้องอาศัยล่ามหรือนักแปลที่มีทักษะเฉพาะทางเข้ามามีส่วนร่วมด้วย แต่บางส่วนงานหรือโดยทั่วไป หากมีงานเกี่ยวข้องกับการแปลภาษา ทุกท่านก็คงนึกถึงเครื่องมือคู่ใจที่หนีไม่พ้น Google Translate เป็นแน่ เพราะด้วยความคุ้นเคยและใช้มามากกว่า 15 ปีแล้วและตลอดหลายปีที่ผ่านมา Google ยังคงพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านภาษาใหม่ ๆ อยู่เสมอ
Timeline of Translation at Google
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา Top 3 อันดับแรกของนวัตกรรมด้านการแปลภาษา ไม่ว่าจะเป็น SMT, NMT และ AutoML ล้วนนำโดย Google ทั้งสิ้น ซึ่งสามารถเล่าเรียง Timeline ได้ดังนี้
จะเห็นว่าปัจจุบัน Google ได้ปล่อยเครื่องมือใหม่ที่เกี่ยวกับการแปลภาษาในระดับไฟล์เอกสารซึ่งเป็น end-to-end solutions ที่ไม่ใช่แค่ developers เท่านั้น แต่เหมาะกับ business users โดยเฉพาะนั่นคือ Translation Hub
Translation Hub คืออะไร?
Translation Hub คือ Self-serve Translation Platform ระดับองค์กร ให้พวกเราสามารถแปลเอกสารกว่า 135 ภาษารองรับภาษาไทย ซึ่งเอกสารที่ผ่านการแปลมายังคงในลักษณะเดิม Format เดิมทั้งสีสันและหน้าเอกสารที่ง่ายต่อองค์กรที่มีการแปลเนื้อหาเอกสารที่หลากหลายภาษา ซึ่งมี Key Features ดังนี้
ใช้งานแบบ Self-service โดยไม่ติดตั้งใด ๆ
Business Users สามารถใช้งานผ่านหน้า Portal ของ Translation Hub ด้วยการ Sign In ด้วย Email ของตนเองโดยไม่ต้องอาศัยวิธีการทางเทคนิคใด ๆ ทำให้ง่ายต้องการใช้งาน ขณะที่ฝั่ง Administrator จะควบคุมอยู่บน Google Cloud Console เพื่อควบคุมสิทธิ์
ต่าง ๆ ของผู้ใช้
แปลเก่งเกินใครกว่า 135 ภาษาในหลักวินาที
เพียงคลิกเดียวบน Translation Hub สามารถแปลภาษาได้ถึง 135 ภาษาในครั้งเดียวบน Neural Machine Trainslation (NMT) จาก Google ที่ล้ำสมัยโดยไม่ต้องมีตัวอย่างการแปลภาษาของเอกสาร ๆ นั้น ๆ ตั้งต้นในการแปลแต่ละครั้ง
ไม่ต้องกังวลกับโครงสร้างและรูปแบบของเอกสาร
Translation Hub จะคงรูปแบบ design และ format ของเอกสารต้นฉบับ ในการแปลแต่ละครั้งผลลัพธ์ของเอกสารจะมีโครงสร้างที่เหมือนกับต้นฉบับรวมไปถึงการแก้ไขของ Users ต่าง ๆ ในขั้นตอน Human Review ด้วย
ระบบบริหารควบคุมและความปลอดภัยระดับองค์กร
Translation Hub สร้างขึ้นโดยคำนึงถึงการแปลระดับองค์กรที่ซับซ้อนและช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการ Portal หรือตั้งค่าต่าง ๆ ให้แยกส่วนในแต่ละแผนก แต่ละคนได้ ซึ่งต่างแผนกก็อาจมีศัพท์เฉพาะของตัวเองและมีการเก็บเงินหรือ Billing ที่แยกส่วนกัน
ราคาที่เป็นมิตรยืดหยุ่นทุกความต้องการด้านการแปล
วิธีการคิดค่าใช้จ่ายของ Translation Hub จะมีหน่วยเป็นหน้าของเอกสาร โดยแบ่งเป็น 2 ระดับ ระดับ Basic มีอัตรา $0.15 ต่อหน้า และแบบ Advanced มีอัตรา $0.50 ต่อหน้า
ซึ่งในระดับ Advanced จะรองรับการตรวจสอบและรีวิวเนื้อหาหลังการแปล (Human in the Loop) และสามารถนำเข้า Machine Learning Model ในการแปลภาษาได้
Translation Hub look & feel
Translation Hub Portal
เป็นหน้าสำหรับจัดการเอกสาร users ซึ่งสามารถ upload เอกสารใน format ที่หลากหลาย อาทิ PowerPoint (pptx), PDF, Words (docx) และยังสามารถรองรับเอกสารบน Google Workspace หรือเอกสารอื่น ๆ บน Google Drive ได้
Translate from English to Chinese (Simplified)
Translate from English to Thai
เราจะเริ่มต้นใช้งาน Translation Hub ได้อย่างไร?
ในมุมของ Admin สามารถ Setup Translation Hub ผ่าน Cloud Console ได้ที่ลิงค์นี้ Click จากนั้นจึงให้สิทธิ์ Service Account และให้สิทธิ์ Users ต่อตามลำดับซึ่งสามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากเอกสารชุดนี้
Conclusion
จากหลาย ๆ ตัวอย่างข้างต้นจะสังเกตได้ว่า Translation Hub ใช้งานได้ง่ายมาก ไม่จำเป็นต้อง Coding หรือเป็นในเชิง Developer Tools อย่าง Translate APIs จึงเหมาะแก่การใช้งานของ Users ไม่ว่าจะเป็นทั้งกลุ่ม Technical หรือ Non-Technical ครับ สุดท้ายนี้หวังว่า Translation Hub จะเป็นอีกหนึ่ง solution ที่ตอบโจทย์องค์กรของพวกเราครับ
ติดต่อผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาด้าน Data Analytics, AI, ML จาก Tangerine
ได้ที่อีเมล marketing@tangerine.co.th หรือโทร 094-999-4263 ได้ทันที